วันที่สอง ณ บ้านพักตากอากาศ Bookbyek
ฉันตื่นนอนมาในตอนเช้าพร้อมกับแสงแดงที่ลอดผ่านมาทางหน้าต่าง. ฉันรู้สึกได้ว่าวันนี้เป็นวันที่มีอากาศร้อนมากแน่เพราะมีหมอกบางในทะเลเพียงเล็กน้อย.
ก่อนที่ฉันจะเริ่มต้นวันใหม่ของฉัน, ฉันก็รีบไปโยนเหยื่อจับปลาแมนดารินซึ่งมีชื่อเสียงมากของ Danyang.
หลังจากโยนเหยื่อสัก 30 นาที, ในที่สุดฉันก็ได้มาหนึ่งตัวโต.
นี่ไง!!! ฉันไม่มีเวลาบ้า, ได้แต่กินนี่และไก่ที่พวกเราซื้อมาเมื่อคืนและเตรียมพร้อมสำหรับทัวร์วันนี้.
Guinsa
วันนี้จุดหมายแรกคือ Guinsa ที่ซึ่งรวมไปด้วย “สถานที่ในเกาหลีที่พวกเราควรไปก่อนตาย."
Guinsa มีที่ตั้ง 600ม. ด้านใต้ Suribong ซึ่งเป็นหมายเลขที่ 4 ของ 8 Gubong. เป็นวันของศาสนาพุทธที่ใหญ่มาก.
พวกเขาสร้างพิพิธภัณฑ์ Cheontaejong ด้านหน้าลานจอดรถ, แต่ว่าจะเปิดในเดือนสิงหาคม ฉันจึงไม่สามารถเช้าไปได้ในระหว่างทริปนี้. ฉันอยากรุ้อยากเห็นการจัดการแสดงข้างใน เพราะว่าตึกค่อนข้างใหญ่.
ฉันวางแผนขึ้นไปยังจุดสูงสุดและก็ได้รับแผนที่. แผนที่ของ Guinsaดูธรรมดามาก, แต่ทางขึ้นสู่จุดสูงสุดของยอดเขาเป็นทางเดินขึ้นเขาทั้งหมด.
สิ่งแรกที่ฉันเห็นคือ Beob-eo-bi (รูปปั้นพระธรรมเทศนา). ถ้าคุณใช้รถบัสคุณก็จะผ่านจุดนี้เพราะว่าคุณจะไปลงทางขวา ด้านใต้ของรูปปั้นนี้ หรือถ้าคุณใช้รถยนต์, คุณจะต้องเดินนิดหน่อยเพื่อมาดูรูปปั้นไม่ใช่แค่ผ่านไป.
ตรงด้านหลังของ Iljumum (ประตูแรกของวัด), มีป้ายชื่อกล่าวไว้ว่า “Seobaeksan Guinsa" มันเพิ่งจะเริ่มต้นหลังจากผ่านประตูนี้, คุณจะต้องเริ่มปีนเขา.
หลังจากนั้นสักพัก, คุณจะเห็นอาคารนี้ที่อยู่ทางซ้ายมือ. ฉันรู้สึกประหลาดใจที่เห็นอาคารสูงที่วัดนี้เพราะตั้งแต่ฉันเคยเห็นมา, ปกติแล้วก็มีเพียงแค่อาคารตี้ยๆ กับหลังคาที่สูง.
ที่จริงแล้วมันเป็นที่พักสำหรับการพักที่วัด. มีการเข้มงวดเรื่องการพูด, มันไม่ได้เป็นหนึ่งในโครงสร้างของวัด.
หลังจากปีนเขามาอีกสักนิด, ฉันก็มาถึงที่ Cheongwangmum ในที่สุด.
ฉันไม่ใช่คนพุทธ; ยิ่งไปกว่านั้น, ฉันก็เดินเข้าวัดด้วยความสำรวม…
แต่ไม่มีสัญญาณที่นี่!!! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยที่นั้นดูเหมือนกับสถานที่ในปัจจุบัน. ฉันเพ่ิงจะผ่าน Cheongwangmun….
อาคารแรกหลัง Cheongwamun คือห้องสมุดภายใน. อาคารสูงมาก. ส่วนใหญ่อาคารจะเป็นแบบนี้ใหญ่และสูง. ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นวัดธรรมดาแต่จะเหมือนพระราชวังมากกว่า.
ตรงกันข้ามของห้องสมุด, มีตู้ ATM ด้วย. ข้างหลังของอาคารนี้, ฉันได้อีกหนี่งแสตมป์.
มันยังคงเป็นทางเดินขึ้นเขาไปถึงยังอาคารศักดิ์สูง 5 ชั้น. ยังไม่มีทางเดินลงเขาที่ Guinsa.
เมื่อฉันเดินผ่าน Gwaneumjeon, คุณจะเห็นเหล่านั้นคือ Jangdokdae (แพลตฟอร์มของหม้อที่บรรจุซอสและเครื่องปรุงรส). Jangdokdae เต็มไปทั่วบริเวณนี้. ฉันไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่ามีชาวพุทธกี่คนอยู่ที่นี่. ฉันเดินผ่านโรงอาหารระหว่างช่วงเวลาอาหาร. ในระหว่างฤดูร้อน, มื้ออาหารของพวกเขามีเวลาตามนี้: อาหารเช้า (6:00-7:30), อาหารกลางวัน (11:30-13:30), และ อาหารเย็น (19:30-22:00). ฉันคิดว่าฉันรู้สึกดีที่ได้รับทราบข้อมูลเหล่านี้ อย่างไรก็ตามฉันยังไม่หิว.
ฉันเจอเด็กผู้หญิง, น่ารักมากระหว่างที่เธอเดินขึ้นเขา. เธอได้รับความสนใจจากผู้คนและคำชมสำหรับกางเกงพระตัวเล็กของเธอ.
หลังจากปีนเขามาได้สักพัก, ฉันก็มาถึงตึก Gwangmyengjoen. มันยิ่งใหญ่และสวยงามมาก.
เพื่อนสาวของฉันทึ่งกับอาคารที่สวยงาม. “นี่คืออาคารที่สูง 7 ชั้นใช่ไหม?"
ฉันจำไม่ได้ว่าชั้นอะไร. แต่ข้างใน Gwangmeyongdang, นั่นคือสถานที่ศักดิ๋สิทธิ์ทางพุทธศาสนาที่สามารถรองรับได้มาถึง 7,000 คน. มันเป็นสถานที่ศักดิ์ 2 ชั้น ซึ่งใหญ่กว่าหอประชุมและคอนเสิร์ตฮอล์.
มันมีสีสันมาก. ในอีกด้านหนึ่ง, มีเปียโนตั้งอยู่ซึ่งดูไม่เหมาะสมสำหรับวัดในศาสนาพุทธ.
นั่นคือชั้นวางรองเท้าของพระสงฆ์. มันใหญ่มาก.
อาคารติดกับภูเขา. ดังนั้นฉันจึงเดินออกไปยังเชิงเขาและระเบียง (?)ข้างๆ, นั่นคือน้ำเย็น(ใช้ถวายพระพุทธรูป). ฉันดื่มไปแล้วตอนที่ขึ้นไปที่ชั้น 7.
หลังที่ฉันไปถึงยังดาดฟ้าของ Gwangmyengjeon, ที่นั่นมีอาคารที่หรูหรามากที่สุด, Daejosajeon, ซึ่งตั้งในพื้นที่ด้านในสุด. มันเหมือนอาคารที่หรูหราใน หนังจีน, แต่ว่าจุดที่น่าสนใจอยู่ที่โครงสร้างภายใน.
ที่นั่นมีรูปปั้นของพระพุทธเจ้าในอาคาร. พระพุทธเจ้าไม่ใช่พระพุทธเจ้าธรรมดาแต่ว่าค่อนข้างเป็นรูปปั้นร่วมสมัยกับภาพวาดที่ร่วมสมัย.
ฉันอดสงสัยไม่ได้ ฉะนั้นฉันได้ถามพุทธศาสนิกชนผู้ได้เดินผ่านฉัน. เขาบอกว่ามันคืออาคารสำหรับ Cheontaejong Jungheungjo Sanwolwongak ผู้สร้างวัดนี้.
หลังจากได้คำตอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว, ฉันมองไปรอบ ๆ และเห็นรูปปั้นที่น่ากลัวซึ่งคอยปกป้องทั้งด้านขวาและด้านซ้ายของ Daejosajeon. ตอนนี้, ได้เวลาลงไปแล้ว.
มีงานศิลปะอยู่ลานด้านหน้าของ Daejosajeon. ไม่ค่อยดีเท่าไหร่. ที่จริงแล้ว, มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันตกใจคือลิฟต์ข้าง ๆ งานศิลปะนี้. ฉันเดินขึ้นไปถึงชั้น 7 อย่างยากลำบากโดยขึ้นบันได….. แต่นั่นคือลิฟต์….พระเจ้า….
ฉันลงมาโดยใช้ลิฟต์และไปที่ Cheontaeyeok-daejosajeon. พวกเขาเป็นผู้มีศรัทธาในพุทธศาสนาในรูป.
มองดูทัศนียภาพของวัดทำให้ ตา,หู,และสมองของฉันปลอดโปร่งและสงบ.
ฉันมาถึงที่ Cheontaeyeok-daejosajeon ได้สักพัก. ที่นั่นมีรูปศักดิ์สิทธิ์ของ 17 ท่าน Cheontaejong-josa ของคนจีน และ 18 ท่าน Cheontaejong-josa ของคนเกาหลี. คุณไม่สามารถถ่ายรูปได้ข้างใน.
ตั้งแต่ฉันไม่สามารถจับปลาได้ในเช้านี้, ฉันก็ได้ถ่ายรูปปลาที่อยู่ใต้ชายคานี้ละกัน.
เมื่อฉันลงมาได้ครึ่งทาง,ฉันเห็นสะพานลอยเชื่อมต่อสองอาคารที่สูงเข้าด้วยกัน. และในเวลานี้, ฉันได้ยินเสียงสวดมนต์ของพระสงฆ์ ดังนั้นฉันเลยเดินไปรอบ ๆ และมองหาเสียงที่มา.
มันมาจาก Seolbeob-bojeon ที่ซึ่งเป็นแกนกลางของอาคารของ Guinsa. มีที่ตั้งอยู่บริเวณอาคารแรก คุณจะเห็นตอนคุณเดินเข้ามา Guinsa. มันสร้างขึ้นมาด้านบนและใต้อาคาร.
มีหลายคนที่อยู่ข้างในและกำลังประกอบพิธี, แต่ฉันไม่รู้ว่าอะไรมันเป็นเพราะว่าฉันไม่ใช่พุทธศาสนิกชน.แต่ฉันก็ได้แค่ดูและฟังเสียงของพระสงฆ์อย่างเงียบเรียบร้อยและทำให้ฉันสงบลง.หลังจากนั้น, ฉันเริ่มลงไปต่ออีกครั้ง.
ในช่วงกลางทางของวัด, นั่นคือเจดีย์. เจดีย์นี้นำมาจากวันเชตวันมหาวิหารในอินเดีย. Jinsinsaraitab ของพระพุทธเจ้าเป็นผลึกคริสตัลที่เล็กมาก. ตรงบริเวณฐานดูเก่าเพราะว่าช้างสามเชือกนั้น, แต่ว่าด้านบนดูร่วมสมัย ฉะนั้นมันจึงดูไม่ค่อยดีนัก.
อย่างไรก็ตาม, ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้อยู่ข้างผลึกคริสตัลของพระพุทธเจ้า. ที่นั่นมีกลองที่ทำมาจากหินข้างๆ Saritab.
ตรงบันได, มีทั้งสิ่งที่น่ารักและสิ่งที่น่ากลัว. หลังจากมองไปรอบตึกนี้, ฉันก็เกือบจะเสร็จสิ้นกับการดู Guinsa.
ฉันก็มาถึงทางออกซึ่งทางเดียวกับทางเข้า. ในที่สุดฉันก็ขึ้ไปยัง Cheongwangmun และมองไปรอบๆ . ระหว่างที่ลงมาข้างล่าง, ไม่ร้อนเท่าไหร่เมื่อเปรียบเทียบกับขึ้นไปที่ Guinsa. หลังจากผ่านประตูไปแล้ว,
ในที่สุดโทรศัพท์ฉันก็มีสัญญาณและทำงานได้ตามปกติ.
https://goo.gl/maps/HcYzd
ที่อยู่: 132-1, Baekja-ri, Yeongchun-myeon, Danyang-gun, Chungcheongbuk-do, Korea
โทรศัพท์: 043-423-7100
โฮมเพจ: https://www.guinsa.org/
