Travel Info

ตอนนี้นี่คือสิ่งที่เรียกว่าถูกและเหลือเฟือSeogwipo, ร้าน'Plentiful Table'

เมืองSeogwipoมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะเช่นหน้าผา Jusangjeolli,Oedolgae,ชวากทะเล Soesokkak,น้ำตกCheonjiyeon,สวนพฤกษชาติ Yeomiji,ซึ่งมันก็มีโรงแรมและร้านอาหารมากมาย.ร้านอาหารทั้งหมดที่อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวจะแพงกว่าร้านอาหารในแถบอื่น.แต่ผมจะโชว์ที่ดีดีให้คุณดูชื่อว่า'Plentiful Table',ที่ซึ่งคุณสามารถกินปลาแมคคอเรลต้มและเนื้อ Dombe ได้เต็มโต๊ะด้วยราคาเพียง 7000วอน.

'Plentiful Table'นั้นตั้งอยู่ที่ตึกแรกของศาลาเมืองSeogwipo .ที่ไหนก็ช่างที่ใกล้ศาลาเมือง,ร้านอาหารแถวนั้นก็จะถูก,เหลือเฟือและอร่อย,ดังนั้นพยายามมองหาศาลาเมือง.

เมนูที่ดังที่สุดของ'Plentiful Table'คือข้าวห่อผักในชามทองเหลือง,และเมนูนี้ก็มีปลาแมคคอเรลต้มและเนื้อDombe รวมอยู่ด้วย.

ผมมาในช่วงที่ไม่ยุ่งทำให้อาหารนั้นได้เร็ว.หมูต้มหั่นวางไว้บนเขียงนั้นก็ถูกเรียกว่าเนื้อ Dombe. Dombeเป็นภาษาของเจจู,เรียกหมูต้มที่หั่นเป็นชิ้นบนเขียง.และมันยังมีปลาแมคคอเรลหมักแล้วต้มในซอสแดง.และมีไข่ต้มในหม้อใหญ่ๆและปรุงรสด้วยแป้งข้าวโพด,เครื่องเทศ,กิมจิ,ถั่วบดด้วย.

ไม่เหมือนกับหมูต้มหั่นซึ่งถูกสับบางๆ,ที่เจจูจะหั่นหนาๆและชอบให้เป็นชิ้นใหญ่ๆและเหนียวนุ่ม.

ผมห่อหมูด้วยผักกาดกับกุ้งเค็ม,นึกถึงว่าจะกินอะไรต่อ,ยุ่งอยู่กับกรอกตาไปมาทั่วทั้งโต๊ะ.

ผมชอบ Domeจริงๆ,และภรรยาผมบอกว่าเธอชอบปลาแมคคอเรลต้ม.ปลาแมคคอเรลและหัวไชเท้ามีรสที่อร่อย,เธอปรุงรสข้าวและกินจนหมด.

ข้าวนั้นเสริฟในถ้วยใหญ่ช่วยให้เราสามารถผสมกับอาหารอื่นๆได้.

ผสมข้าวกับถั่วบดและเต้าหู้หรือกินเนื้อกับผักอร่อยมาก.

ภรรยาผมห่อกะหล่ำโปะด้วยสมุนไพรและเอาให้ผม,บอกผมว่าอย่ากินแต่เนื้อ,ถั่วบดนั้นไม่เค็ม,ค่อนข้างดีทีเดียว.

ไข่ตุ๋นมาในหม้อใหญ่ๆ,ใหญ่กว่าสำหรับสองที่.รสนุ่มๆของไข่ตุ๋น.ผมขอบไข่,ดังนั้นโกยเลย. ^^ *

และDotorimukปรุงรส!จานนี้ที่ผู้สูงอายุชอบ,ผมอยากมาอีกกับพ่อแม่ถ้าผมมาเจจูครั้งต่อไป.

หลังจากกินข้าวเสร็จของหวานตามต้นตำหรับเจจู'Sheendari', มันเป็นเหล้าเปรี้ยวหวาน,ที่รสชาติเหมือนไวน์ข้าว.มันคล้ายกับ Sikhyeหรือsujeonggwa, นี่มันมีรสชาติอร่อยและมีเอกลักษณ์.มันเหมือนกับโยเกริตท์หรือไวน์ข้าว.ชาวเจจูชอบของแบบนี้เป็นของหวาน~มันคุ้มที่จะลอง.มันเป็นน้ำผึ้งที่หวานและเปรี้ยว.

ผมกล่าวเหมือนว่ามันเป็นของหวาน,แต่สำหรับคนที่ไม่เก่งเรื่องดื่มแอลกอฮอลล์อาจจะเมาและถูกจับเมาแล้วขับ,ดังนั้นลองแค่นิดหน่อยพอ.

หลังจากกิน,คุณสามารถเห็นได้ว่าทำไมร้านถึงชื่อ 'PlentifulTable',เพราะว่ามีอาหารเหลือเฟือ~รวมถึงเมนูด้วย!สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีภาระต้องซื้ออาหารทุกมื้อ,และอยากลดค่าใช้จ่ายจากอาหารแพงๆสามารถมาที่'Plentiful Table'ด้วยความสบายใจ.

+ ที่อยู่:397-99, Seohong-dong, Seogwipo-si, Jeju-do

+ โทรศัพท์: 064-762-8819

+ เวลาทำการ: 9:00 ถึง 22:00 (ปิดวันอาทิตย์)

ที่พักเงียบๆในเจจู,รีสอร์ทครอบครัว Hanwhaที่เจจู

ถ้าไม่ได้ตั้งอยู่ในเมือง,ที่พักส่วนใหญ่ก็จะเงียบ,แต่ตอนนี้ผมจะแนะนำคุณรีสอร์ท Hanwhaที่เจจู,ซึ่งเงียบกว่าและสบายกว่าที่อื่นๆ.รีสอร์ทล้อมรอบไปด้วยภูเขา Hallaและปล่องภูเขาไฟของเกาะเจจู,และมีอุทยานJeolmul ,เหมาะแก่การเดิน.รีสอร์ทนั้นทั้งเงียบและผ่อนคลายที่จะเดิน.โดยเฉพาะคนที่ชอบเล่นกอล์ฟสามารถที่จะสนุกกับสนามกอล์ฟเก้าหลุมในพลาซ่าCC Jeju. ผมจะลงไปดูว่าสถานที่มันสวยขนาดไหน.

Dolharbangที่ต้อนรับเราด้วยรอยยิ้มทำให้ผมรู้สึกว่าผมอยู่ที่เกาะเจจูแน่ๆ.แต่ผมไม่สามารถเห็นรอยหรือตัวอักษรบนฝาผนังที่ไหนก็ตามในอาคาร.บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขากำลังซ่อมแซมทั้งด้านในและด้านนอกเพื่อต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยว,แต่แน่นอนมันคือรืสอร์ท Hanwhaในเจจู.

เกาะเจจูในเดือนมิถุนายนนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้,แม้แต่สวนที่นี่ก็มีดอกไม้บานเต็มไปหมด.ไม่มีใครผ่านทางนี้เพราะมันเป็นสถานที่ของรีสอร์ทและมีแต่ภูเขาล้อมรอบ,เพอร์เฟกท์ที่สนุกกับธรรมชาติเงียบๆ.

เมื่อคุณเห็นรสบัสที่ล็อบบี้,ผมอยากที่จะออกเืี่ยว~หรือผมรู้สึกเหมือนผมกำลังเที่ยวอยู่จริงๆ.......และถ้ามีคนที่ชชอบแอลกอฮอลล์เหมือนผม,เราอาจจะสนุกกันทั้งคืน,น่าเสียดายที่ผมไม่ได้อยู่กับพวกเขาตอนนี้^^ *

แสงนั้นสวยมากๆ.มีที่ที่ขายช็อคโกแล็ตและของหวานที่สามารถพบได้แค่ที่เกาะ.มันราคาประมาณสองสามพันวอนต่อกล่อง,ซึ่งเราก็ซื้อหนึ่งกล่องและกินมัน^^ *

ห้องสำหรับครอบครัวนั้นอยู่ที่ฝั่งตะวันตก,ซึ่งเราผ่านห้องโถง,และเจอที่ซักผ้า.ผมมาที่นี่กับเสื้อผ้ามากมายหลังจากว่ายน้ำเหมือนกัน.ดูทีวีขณะซักผ้าสะดวกดีทีเดียว.

ที่ระเบียงชั้นหนึ่งซึ่งเชื่อมกับล็อบบี้ไปยังฝั่งตะวันตก,มันมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย.มีห้องเกมส์,ห้องร้องเพลง,ห้องพีซี,และบ้านซาชิมิและร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อที่เปิดถึงเที่ยงคืน.ร้านสะดวกซื้อขายอาหารที่เก็บได้,ซึ่งคนที่ไม่อยากกินอาหารเช้าก็สามารถกินขนมปังหรือข้าวกรอบและไข่ำหรับมื้อเบาๆ.และมีเครื่องครัวอยู่ในห้อง.

ล็อบบี้และห้องโถงแจกคูปอนที่จำเป็นต้องใช้เที่ยวในเกาะเจจู.ที่ที่เป็นที่รู้จักคือโลกแห่งน้ำ,ซึ่งผมวางแผนที่จะไป!!!ผมถามพนักงาน,และพบว่าที่รีสอร์ทมีส่วนลด23%สำหรับแขกที่นี่.
ใครที่อยากไปต้องอย่าลืม,ตกลงมั้ย?

ผมขึ้นไปที่ห้องชั้นหก.ห้องที่ผมอยู่เป็นห้องสำหรับครอบครัว,สำหรับสองคน.มีห้องหนึ่งห้อง,ห้องน้ำและห้องนั่งเล่น.ห้องนั่งเล่นนั้นกว้างพอสำหรับ 4~5คนนอนได้.และทีวีกว้างที่มีหลายช่อง,ผมไม่มีเวลาที่จะเบื่อในตอนกลางคืน. ^^ *

มีที่อบผ้า,ผมไม่เคยเห็นรีสอร์ทที่ไหนมีที่อบผ้า.หลังจากที่ซักผ้าผมเสร็จ,ผมอบผ้าที่เครื่องอบผ้า.เนื่องจากอากาศดี,ลมพัดให้ผ้าที่ตากไว้แห้ง.ดีจัง ~

เพราะรีสอร์ทเหมือนกับคอนโด,เครื่องใช้ในครัวก็มีพร้อม.แน่นอน,สำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ต้องการพวกนี้,แต่สำหรับบางคนที่ไม่อยากกินข้างนอก,นี่มีประโยชน์มาก.

สำหรับคู่ที่มีเด็ก,มันก็มีอุปกรณ์สำหรับสามคน.

ข้าวของเครื่องใช้ในการทำอาหารและสิ่งทำความสะอาดก็มีพร้อม.โดยปกติ,มันใช้ไม่ค่อยดี,แต่บางครั้งเมื่อคุณกินอาหารทะเลที่มีเปลือกเช่นหอยหรือปลาหมึกจากตลาด,นี่จะกลายเป็นมีประโยชน์.

มีอ่างอาบน้ำที่ผมไม่เคยฝันที่จะเจอที่เกสท์เฮาส์ !เย้~ผมสามารถแช่น้ำและพัก.ตอนนี้,มีที่พักมากมายที่ไม่มีอ่างอาบน้ำ,ซึ่งเมื่อผมเจอที่ที่มีอ่าง,มันทำให้ผมรู้สึกดีมาก.และน้ำร้อนก็ไหลทันทีทันทีที่ผมหมุนก๊อก. ^^ *

สิ่งที่ดีที่ที่นี่ให้เราคือเรากลายเป็นคนที่รู้จักที่จะซาบซึ้งกับสิ่งเล็กๆ.ผมต้องขอบคุณห้องน้ำ. ^^ *

ห้องนอนนั้นโอเคถ้าแค่มันสะอาดและมีหมอนแห้งๆและผ้าห่ม.บางครั้งมีโรงแรมที่หมอนเหม็นหรือผ้าห่มไม่สะอาด,แต่รีสอร์ท Hanwhaนั้นดีซึ่งผมก็หลับได้อย่างสบาย.

มีหมอนและผ้าห่มในตู้เสื้อผ้า,พอสำหรับคนอีกสามคน.หมอนพวกนั้นเป็นแบบที่ใช้ในกองทัพ,ซึ่งมีพลาสติกด้านในมันก็เลยไม่นิ่ม,แค่สบายพอที่จะหลับได้.

ไปข้างนอกเพื่อดูทิวทัศน์กันเถอะ~

ภูมิประเทศของเกาะเจจูมีบรรยากาศน่ารักเป็นของตัวเอง.เนินเขาต่ำๆและลมกับกลิ่นของหญ้าที่แปลกทำให้รู้สึกสดชื่น.มากกว่านั้น,ผมชอบที่ไม่มีอาคารที่บังวิวเลย.

มีคาราวานอยู่ด้านหนึ่ง.ผมไม่เคยนอนที่นี่,แต่ว่าครั้งต่อไป,ผมจะลองดู.นั่งเล่นอยู่ตรงประตูยามเย็น,ย่างเนื้อและเล่นในสวนด้านนอก,แล้วเข้านอนคงจะดีมาก.

ถัดจากคาราวานมีโซนพัก,ซึ่งคุณสามารถพักผ่อน,กินบาร์บีคิว,แต่ไม่มีที่พักให้บริการ~ ※ เวลาพักนั้นจาก16:00 ถึง 22:00 (จอง 064-783-9130)

อาหารเข้าผมมีไข่และข้าวกรอบที่ผมซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อที่ชั้นหนึ่ง.คุณเห็นรูปหัวใจบนไข่ทอดมั้ย ฮิฮิ?ใช่แล้วมันคือหัวใจ!
ในเจจูเกสท์เฮาส์เป็นที่นิยม,แต่บางครั้งรีสอร์ทที่คุณสามารถอาบน้ำได้อย่างสบายและความเงียบนั้นดูดี.เมื่อผมอายุมากขึ้น,ประมาณ40ปีเกสท์เฮาส์ก็ค่อนข้างยากสำหรับผมตอนนี้,แต่แน่นอน,คุญกับเด็กๆ,หรือหัวเราะตอนกินอาหารเช้าง่ายๆมันดีมาก.บางครั้งสนุกกับราคาถูกๆและผ่อนคลายนั้นดีมาก.ผมผ่อนคลาย.ผมแนะนำ.

+ ที่อยู่: 575-107, Myeongnim-ro, Jeju-si, Jeju-do

+ โทรศัพท์: 064-725-9000

สิ่งที่คุณควรจะกินที่ตลาด Seogwipo(saury kimbap, sundaeเจจู, เค้กข้าวปลาดุก),มีตลาดดั้งเดิมสองแห่งใหญ่ที่นำเสนอเกาะเจจู.ที่หนึ่งคือตลาด Dongmunในเมืองเจจู,และอันหนึ่งที่เมืองใน Seogwipo. ตลาดทั้งสองแห่งนี้มีร้านอาหารที่อร่อยและราคาเป็นกันเองมากมายและขนมต่างๆ,และของที่มีแต่ในเจจูที่ขายในราคาถูก.สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ปิดหกโมงเย็น,และสำหรับนักท่องเที่ยวที่เบื่อในเวลากลางคืนสามารถมาที่ตลาด Seogwipoอันคึกคัก.

ตลาด Seogwipoนั้นตั้งอยู่ที่ถนนหลักของSeogwi-dong.ใกล้ๆ,มีน้ำตกCheonjiyeon และถนน Lee Jung-seob,และเกาะนก,ซึ่งมันคุ้มที่จะมาเที่ยว.

ที่แรกที่จะไปคือร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดที่นี่,"ร้านเพื่อนซูชิ".ทั้งซูชิและอาหารนั้นถูก,แต่เหตุผลที่ทำไมร้านนี้ดังคือsaury kimbap. ในแบบดั้งเดิมของ,saury kimbapคือเครื่องเคียงที่มาพร้อมกับซูชิ,ตอนนี้มันมีชื่อเสียงจึงแยกขายต่างหาก.มันราคา 4,000วอนสำหรับหนึ่งที่,และมันขายสำหรับซื้อกลับเท่านั้น.ซึ่งมันดีสำหรับของว่างตอนดึกที่โรงแรม.

sauryอบนั้นม้วนกับข้าวและชั้นสาหร่าย.มันมีหน้าตาที่น่าอึ้ง,ใช่มั้ย?

4000วอนสำหรับkimpap หนึ่งแถวนั้นค่อนข้างแพง.แต่เพราะว่ามันมีsaury รวมอยู่ด้วย,มันเลยไม่แพงมาก. kimpapมันดูคาวและมีก้างปลาเยอะใช่มั้ย?แต่ไม่ใช่.มันไม่เลี่ยน,มันรสชาคิเหมือน kimpapทูน่าเปล่าๆ.และมันแทบหาก้างไม่ได้เลย,มันมีรสชาติที่น่าสนใจ.อย่างไรก็ตาม,ผมไม่รู้สึกถึงรสคาวๆตอนที่มันร้อน,แต่เวลามันเย็นมันคาวนิดหน่อย.ดังนั้นซื้อเท่าที่คุณอยากกิน,และกินตอนที่มันยังร้อนอยู่.

อันที่สองคือเค้กข้าวปลาดุกของ"ร้านเค้กข้าวที่ดีที่สุด".เค้กข้าวปลาดุกเป็นอาหารประจำท้องถิ่นของเจจู.และหาได้แค่ที่เจจูเท่านั้น.ไม่เหมือนร้านอื่นๆที่ขายเค้กหลากชนิด,ร้านนี้ขายแค่เค้กข้าวปลาดุกเท่านั้น.คนที่ทำขนมปังอยู่ที่ด้านหลังของรูป,และคนด้านหน้าก็กำลังห่อเค้กข้าว,และแขกก็ต่อแถวเรื่อยๆ~"ร้านเค้กข้าวที่ดีที่สุด"นั้นเป็นที่นิยมอย่างแท้จริง.

ราคาของเค้กข้าวปลาดุกนั้น3000 วอนสำหรับหกชิ้น,และขนาดก็เท่ากับมือของเบบี้!!ส่วนผสมสามอย่างถั่วบด,และถั่วอื่นอีกสามอย่างบด.หน้าตานั้นแตกต่าง,แต่ข้างในมีรสหนึบๆของข้าวและถั่วแดงหวานตกแต่ง.ผมชอบอันที่มีถั่วเยอะๆมากกว่า,ผมชอบรสชาติแบบเด็กๆ.

ร้านสุกท้ายที่ผมเลือกที่ตลาดSeogwipo คือ..........ร้านขนม Saerona???เปล่า,ไม่ใช่.Modakchigi ของร้านขนม Saerona นั้นดังและอร่อย,แต่สำหรับผมมันรสชาติเหมือนซุปข้าวผสมkimpap,แพนเค้ก,และเกี๊ยว,ซึ่งไม่น่าค้นหาและไปกิน.ผมขอแนะนำ Sundaeที่เป็นที่กล่าวขานกว่า30 ปี.ในรูป,มีคนที่ตั้งใจมาที่นี่เข้าคิวอยู่.โดยเฉพาะเจจู Sundaeนั้นกลิ่นแรงสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจากแผ่นดิน.มีสถานที่ที่ถามคุณว่าทนกลิ่นได้ไหม.

Sundaeที่ร้านนี้ไม่มีกลิ่นและอร่อย,และสีมันก็ดูเข้ม,เพราะมีเลือดที่ผสมอยู่เยอะ.

Sundaeที่ขายที่ Seoul/Gyeonggiมีบะหมี่เยอะ.ซึ่งทำให้เนื้อเยอะ.แต่ Sundaeในเจจูทำขากข้าวเนียวและผัก,และบะหมี่นิดหน่อยซึ่งทำให้รู้สึกด้านๆ,แต่นุ่มขึ้น.ผมชอบ Sundaeเลือด,ซึ่งผมก็อร่อยกับมันมากๆ.

ผมซื้อบางอย่างสำหรับกินตอนกลางคืนอย่างรีบเร่ง,กลัวว่าจะช้าหลังจากที่ตลาดปิด.ผมดูรอบๆตลาด,และมันสะอาด,เทียบกับตลาดดั้งเดิมอื่นๆและมันมีหลังคา,ทำให้การซื้อของสำดวกเวลาอากาศไม่ดีด้วย.

มีหลายร้านที่ขายแต่ของพิเศษที่มีแต่ในเจจู,ช็อคโกแล็ตและขนมปังน้ำผึ้งตรงนั้นตรงนี้,ดังนั้นเราจึงซื้อขนมฝากครอบครัว.

เราซื้อพวกนั้นด้วยราคาที่ถูกกว่ามาร์ทในเมือง.ในตลาด Seogwipo,ขนมปังน้ำผึ้งราคา10,000 วอนต่อสิบชิ้น,แต่ที่ร้านในเมือง12,000 สำหรับ10ชิ้น.

เพราะว่ามันเป็นคืนสุดท้ายในเจจู,เราตวรจะดื่มUdo ไวน์ถั่ว,กับขนมที่เราซื้อมาจากตลาด.ไวน์ที่หวานและอร่อย~ภรรยาผมชอบ.ผมแนะนำให้สาวๆ.บางทีมันอาจจะเป็นไวน์ข้าวอย่างแรกที่อร่อย.มันอาจถูเข้าใจผิดว่าเป็นนมรสถั่ว!

ส่วนหางของsaury kimbap!! หน้าตามันไม่น่ากิน.แต่ผมกินมันในคำเดียว.มันอร่อย~

ตลาดSeogwipoเป็นสถานที่ที่ดี,ทำให้เราได้เวลาในคืนสุดท้ายที่เจจูในแบบที่อร่อยและตลก.

+ ที่อยู่: 277-1, Seogwi-dong, Seogwipo-si, Jeju-do

+ โทรศัพท์: 064-762-1949 associated phone number

+ เวลาทำการ: 7:00 เช้าถึงสามทุ่ม(หน้าร้อน), 7:00 เช้าถึงสองทุ่ม (หน้าหนาว), เปิดตลอดทั้งปี